นายภูมิพัฒน์ ฉัตรนรเศรษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) เปิดเผยว่า การเปิดโรงพยาบาลใหม่ 2 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ปราจีนบุรี ในวันที่ 1 ม.ค.64 และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์ สปป.ลาว ต้นไตรมาส 2/64 มีโอกาสจะคุ้มทุนในระดับของกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย,ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในปีแรกที่เปิดดำเนินการ หากมีผู้ใช้บริการเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
"โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ปราจีนบุรี...ถ้าเป็นไปตามแผน ก็จะ break even ระดับ EBITDA ได้ภายในปีแรก ส่วน bottom line คงต้องดูอีกทีเพราะมีส่วนประกอบของค่าเสื่อมและดอกเบี้ยจ่ายด้วย แต่ระดับ EBITDA เราไม่ห่วง เพราะที่ตั้งของโรงพยาบาลอยู่ใกล้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ส่วนสาขาเวียงจันทน์ที่จับกลุ่มให้บริการคนไข้ท้องถิ่น และคนทำงานต่างชาติ รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งเราเห็นดีมานด์ที่ชาวลาวเดินทางเข้ามาใช้บริการในไทยค่อนข้างเยอะ
ถ้าเป็นไปตามประมาณการไว้ EBITDA ในปีแรก ทำได้อย่างปริ่ม ๆ อยู่ที่คุณภาพที่เรานำเสนอ ปัจจัยสำคัญคือการเปิดด่าน ด่านเปิดเมื่อไหร่ เราสามารถเตรียมความพร้อมนำบุคลากรที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากลที่จะเข้าไปลงที่ สปป.ลาวได้ เชื่อว่าสาขานี้จะไม่เป็นภาระอะไรกับกลุ่มเรา น่าจะ break even ในระดับ EBITDA ได้ไม่อยากเย็นภายในปีแรก หรือเต็มที่ภายในปีครึ่ง"นายภูมิพัฒน์ กล่าว
นายภูมิพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ปราจีนบุรี ขนาด 115 เตียง มีความคืบหน้าโครงการ 99% ปัจจุบันใช้งบลงทุนแล้ว 750 ล้านบาท คงเหลืออีก 116 ล้านบาท จะรองรับกลุ่มคนทำงานชาวต่างชาติและผู้ประกันตนที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรม 304 โดยในช่วง 3 เดือนแรกของปี 64 คาดว่าจะมีผู้ประกันตนสมัครเข้าใช้สิทธิกับเครือโรงพยาบาลมากกว่า 5 หมื่นราย และโรงพยาบาลแห่งนี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนรายได้ของบริษัทตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
ส่วนโครงการโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์ ขนาด 110 เตียง มีความคืบหน้าโครงการ 92.8% ปัจจุบันใช้เงินลงทุนไปแล้ว 965 ล้านบาท คงเหลืออีก 605 ล้านบาท จะรองรับการให้บริการแบบครบวงจรของคนไข้ท้องถิ่น ชาวต่างชาติที่ทำงานในลาว รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง