ปัจจุบันประเทศไทยมีอัตราการคลอดประมาณ 7 แสนทารกแรกเกิดต่อปี ซึ่งในจำนวนดังกล่าว ทารกแรกคลอด 1% หรือประมาณ 7,000 รายต่อปี จะมีความผิดปกติที่โครงสร้างหัวใจและหลอดเลือด หรือโรคหัวใจแต่กำเนิด โดย 1 ใน 4 ของกลุ่มที่มีโรคหัวใจแต่กำเนิดจะต้องผ่าตัดหรือรักษาด้วยการสวนหัวใจ
เมื่อวันที่ 18 กันยายน โครงการดูแลรักษาเด็กโรคหัวใจแต่กำเนิดแบบองค์รวม คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) เปิดตัวโครงการ “ค่ายสำหรับเด็กโรคหัวใจแต่กำเนิดครั้งที่ 2” ภายใต้แนวคิด “Blooming the Blue Babies” หัวใจใสใส..ไม่สิ้นสุด ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิร่วมทางฝันที่ก่อตั้งโดยบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
พญ.อลิสา ลิ้มสุวรรณ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า โรคหัวใจแต่กำเนิดขณะนี้สามารถตรวจพบได้ตั้งแต่มารดาตั้งครรภ์ 17-20 สัปดาห์ โดยฟังเสียงหัวใจจากการอัลตราซาวด์ในครรภ์ และรักษาเมื่อเด็กคลอดออกมา แต่ถ้าอาการของเด็กในครรภ์มีความผิดปกติมากจนมีโอกาสเสียชีวิต ทางโรงพยาบาลที่มีความพร้อมในการให้ยุติการตั้งครรภ์จะแนะนำให้พ่อแม่ยุติการตั้งครรภ์ แต่ถ้าพ่อแม่ไม่ยุติการตั้งครรภ์ก็จะดูแลเด็กตั้งแต่ในครรภ์ไปจนคลอดและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เพราะการรักษาดูแลของแพทย์นั้นต้องมุ่งรักษาคนไข้ให้มีอายุยืนยาวและสามารถใช้ชีวิตได้ปกติ พญ.อลิสา ลิ้มสุวรรณ “ทารกแรกเกิดที่เป็นโรคหัวใจแต่กำเนิด จะเกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างหัวใจและการทำงานของหัวใจ ซึ่งเด็กจะมีอาการเหนื่อยง่าย กินนมไม่ได้ และมีภาวะตัวเขียว โดยสามารถแบ่งง่ายๆ ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีภาวะหัวใจเขียว ซึ่งถือว่ามีความซับซ้อน และกลุ่มโรคหัวใจไม่เขียว การรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจแต่กำเนิดโดยเฉพาะเด็กต้องรักษาดูแลแบบองค์รวม ทีมแพทย์ทุกภาคส่วนต้องร่วมกัน ทั้งการผ่าตัดและสวนหัวใจในวัยเด็กและคนไข้ส่วนหนึ่งต้องรักษาต่อเนื่องอาจจะมีการผ่าตัดหลายครั้ง และเมื่อผ่าตัดเสร็จแล้วก็ต้องดูแลเด็กอย่างต่อเนื่อง จนโตเป็นผู้ใหญ่ต้องได้รับการติดตาม ดูแล เพื่อให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี” พญ.อลิสา กล่าว
“ค่ายสำหรับเด็กโรคหัวใจแต่กำเนิดครั้งที่ 2 ” นี้ ทีมแพทย์ที่มีความพร้อมทำงานร่วมกันตั้งแต่สูติแพทย์ กุมารแพทย์โรคหัวใจ ศัลยแพทย์โรคหัวใจและทรวงอก วิสัญญีแพทย์และทีมดูแลผู้ป่วยวิกฤติ รวมถึงอายุรแพทย์โรคหัวใจที่มีความชำนาญในการรักษาผ่านท่อสวนหัวใจ รวมทั้งมีทีมแพทย์ที่สามารถเปลี่ยนลิ้นหัวใจโดยไม่ต้องผ่าตัดผ่านท่อสายสวนหัวใจในตำแหน่งของหัวใจทั้ง 4 ลิ้น เป็นสถาบันแรกและสถาบันเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล เพื่อการวินิจฉัยโรคหัวใจแต่กำเนิดของทารกในครรภ์มารดาตั้งแต่แรกคลอด จนถึงวัยเด็กและเจริญเติบโตเป็นวัยผู้ใหญ่ ขณะนี้มีแพทย์โรคหัวใจเด็กทั้งประเทศประมาณ 100 คน แพทย์ผ่าตัดโรคหัวใจเด็ก 20 คน และในแต่ละปีมีเด็กที่ต้องผ่าตัดเกี่ยวกับโรคหัวใจ 3,500 คน การสร้างความตระหนักรู้ในการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจแต่กำเนิดต้องใช้ทีมแพทย์ บุคลากร ผู้เชี่ยวชาญและอุปกรณ์ที่ทันสมัย พร้อมต้องสร้างกิจกรรม สร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ผู้ปกครองอันนำไปสู่การปฏิบัติตัว และการเตรียมพร้อมให้แก่เด็กโรคหัวใจแต่กำเนิด
นางเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มูลนิธิร่วมทางฝัน เป็นธุรกิจเพื่อการกุศล ภายใต้แนวคิดอยู่เพื่อให้ที่ได้สร้างโครงการที่อยู่อาศัย และมอบกำไรทั้งหมดจากการจำหน่ายโครงการให้แก่โรงพยาบาลภาครัฐ เช่น โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งในส่วนของโครงการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจแต่กำเนิด เป็นการนำกำไรจากการขายโครงการบ้านร่วมทางฝัน 3 จำนวน 40 ล้านบาท มอบให้โรงพยาบาล เพื่อสนับสนุนโครงการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจแต่กำเนิดอย่างครอบคลุมตั้งแต่โครงการสนับสนุนแพทย์ประจำบ้าน และแพทย์ฝึกหัดเข้าร่วมประชุมนานาชาติ รวมถึงการจัดค่ายเพื่อดูแลผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจแต่กำเนิด เพื่อให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับโรคหัวใจแก่ผู้ป่วยที่เป็น และการปฏิบัติเพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงคนปกติ ไปโรงเรียน ทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ ได้ รวมทั้งส่งเสริมความเข้าใจและการดูแลผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้น